การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของเรา

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ได้แสดงความรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการดำเนินงานในทุกกระบวนการทางธุรกิจและห่วงโซ่อุปทาน ทั้งทางตรงและทางอ้อม

โดยได้รวมถึงการประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งวางแผนเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพในด้านผลกระทบทางกายภาพและการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท บริษัทให้ความสำคัญในการดำเนินการที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ

ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 27 (COP27) ซึ่งจัดขึ้นในปี 2565 มีการเน้นย้ำถึงเป้าหมายสำคัญในการควบคุมหรือจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่สอดคล้องกับแนวทางที่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) กำลังดำเนินการอยู่ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการภายในองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและพลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ภาวะโลกร้อนยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น พายุ น้ำท่วม หรือแผ่นดินถล่ม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานและการจัดการทรัพยากรของบริษัท

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) เข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและได้ดำเนินการในหลากหลายด้านเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และการสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวและการบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน องค์กรจึงได้เข้าร่วมในการสนับสนุนเป้าหมายและมาตรการระดับสากลเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เจ เอ็ม ที ในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อโลกในปัจจุบัน พร้อมทั้งยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทางธุรกิจขององค์กร


ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

พนักงาน
ผู้บริหาร
ลูกค้าและผู้บริโภค
พันธมิตรและคู่ค้า
ชุมชนและสังคม
หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานการกำกับดูแล

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG 7
พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
SDG 11
เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
SDG 12
การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
SDG 13
การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

  • ภายในปี 2573 รักษาอัตราการลดใช้พลังงานที่ซื้อ จากภายนอกลงต่อเนื่องร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2565
  • ระยะสั้น: มุ่งมั่นที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อปี ให้ได้อย่างต่อเนื่องร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับกรณีปกติ Business-as-Usual (BAU) ภายในปี พ.ศ.2573
  • ระยะยาว: มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ.2593 มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2608

ผลการดำเนินงาน

ในปี 2567 มีปริมาณการใช้พลังงานรวม 1,330.53 เมกะวัตต์-ชั่วโมง
ลดลง 415.01 เมกะวัตต์-ชั่วโมง หรือคิดเป็นร้อยละ 23.78
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม ณ เจ เอ็ม ที สำนักงานใหญ่ ในปี 2567
รวม 506.42 tCO2e ลดลงร้อยละ 23.22

เพื่อรับมือกับปัญหาวิกฤติพลังงานและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมุ่งลดการใช้พลังงานที่หมดไปและลดการพึ่งพาพลังงานจากแหล่งภายนอก ความมุ่งมั่นของบริษัทในการแก้ไขปัญหานี้สอดคล้องกับเป้าหมายที่กำหนดโดยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก อันเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นผลจากกิจกรรมมนุษย์และการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย

ในแง่ของการดำเนินการ บริษัทได้ริเริ่มโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยหนึ่งในโครงการที่สำคัญ คือ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถใช้ได้อย่างยั่งยืน และไม่มีผลกระทบจากการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ

นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานโดยเน้นการใช้งานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโครงการเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การลดการใช้พลังงานในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท เช่น การใช้ไฟฟ้าสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบปรับอากาศ และระบบไฟส่องสว่างในอาคาร ผ่านการควบคุมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น และนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานอย่างไม่จำเป็น นอกจากนี้ บริษัทได้ริเริ่มการลดการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สร้างมลพิษหรือใช้พลังงานสูงเกินความจำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้พลังงานของบริษัท เพื่อการรักษาอัตราการลดใช้พลังงานที่ซื้อจากภายนอกลงต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่งเสริมกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในทุกโอกาสที่ทำได้

ข้อมูลการใช้พลังงาน บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2567)

ประเภท หน่วย 2565 2566 2567
การใช้พลังงานที่ไม่ใช้พลังงานทดแทนทั้งหมด
(พลังงานที่ซื้อจากภายนอก)
kWh 688,110 778,770 696,410
รวมการใช้พลังงานทั้งหมด kWh 688,110 778,770 696,410

สรุปผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ณ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2567)

ประเภท ขอบเขต หน่วย 2565 2566 2567
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่สำนักงานใหญ่ Scope 1 - 3 tCO2e 580.17 659.65 506.42
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง Scope 1 tCO2e 261.90 261.90 147.93
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม Scope 2 tCO2e 343.99 389.31 348.14
การซื้อไฟฟ้าจากแหล่งภายนอก Scope 2 tCO2e 343.99 389.31 348.14
การใช้น้ำประปา Scope 3 tCO2e 7.79 8.44 10.35

แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการก๊าซเรือนกระจก จึงริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ

จึงได้ริเริ่มรณรงค์ให้มีการลดการใช้ทรัพยากร และพลังงานภายในบริษัท การเพิ่มสัดส่วนของการใช้พลังงานหมุนเวียนแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิล การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในโครงการ Care the whale กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อแสดงถึงความพยายามในการลดก๊าซเรือนกระจกจากการจัดกิจกรรมต่างภายในองค์กร ซึ่งมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2593

ในแง่ของการดำเนินการ บริษัทได้ริเริ่มโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยหนึ่งในโครงการที่สำคัญ คือ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถใช้ได้อย่างยั่งยืน และไม่มีผลกระทบจากการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ โดยเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านมาตรการต่างๆอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ บริษัทได้บูรณาการการใช้พลังงานหมุนเวียนในสาขาต่างๆทั่วประเทศ เช่น การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและสนับสนุนการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานโดยเน้นการใช้งานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโครงการเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การลดการใช้พลังงานในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท เช่น การใช้ไฟฟ้าสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบปรับอากาศ และระบบไฟส่องสว่างในอาคาร ผ่านการควบคุมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น และนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานอย่างไม่จำเป็น นอกจากนี้ บริษัทได้ริเริ่มการลดการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สร้างมลพิษหรือใช้พลังงานสูงเกินความจำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้พลังงานของบริษัท เพื่อการรักษาอัตราการลดใช้พลังงานที่ซื้อจากภายนอกลงต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่งเสริมกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกโอกาสที่ทำได้

นอกจากนี้ บริษัทได้ปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงานในองค์กร ผ่านการให้ความรู้และการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวัน

ด้วยมาตรการทั้งหมดนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนในทุกกระบวนการดำเนินงาน ไม่เพียงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบร่วมกันของพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง