การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของเรา

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) การพัฒนานวัตกรรมถือเป็นแกนหลักในการเสริมสร้างศักยภาพขององค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็วและครอบคลุม

บริษัทมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและโซลูชันที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การบริหารจัดการหนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไปจนถึงการพัฒนาระบบบริการลูกค้าที่สะดวกและปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัล รวมถึงการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการทำงาน และลดต้นทุนในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการบริหารจัดการหนี้ บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยี เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า วางแผนการติดตามหนี้ที่เหมาะสม และพัฒนาการบริการที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างบริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมการบริหารจัดการหนี้ บริษัทเชื่อว่าการพัฒนานวัตกรรมไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืนในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งผลักดันองค์กรให้เติบโตไปพร้อมกับสังคมในระยะยาวอย่างมั่นคงและยั่งยืน


ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ลูกค้าและผู้บริโภค
พนักงาน
พันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้า
ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
ชุมชนและสังคม
รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG 8
การทำงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
SDG 9
โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและอุตสาหกรรม
SDG 12
การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
SDG 17
ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

  • ระยะสั้น : จำนวนโครงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี 2 โครงการ/ปี
  • ระยะยาว : จำนวนโครงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี 10 โครงการ ภายในปี 2573

แนวทางการบริหารจัดการ

แนวทางการบริหารจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทฯ มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจด้านบริหารจัดการหนี้ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน ดังนี้

  • 1

    การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการดำเนินงาน

    บริษัทมีการปรับใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านบริหารจัดการหนี้ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและให้บริการลูกค้า

  • 2

    การพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า

    บริษัทมีการพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น “Jaii Dee” เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามและบริหารจัดการภาระหนี้ของตนเองได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเน้นการใช้งานที่สะดวกและมีความยืดหยุ่น

  • 3

    การขยายบทบาทของเทคโนโลยีในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

    บริษัทสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาบริการใหม่ เช่น แอปพลิเคชัน “Baan Baan” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัทในเครือ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนในสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ผ่านเทคโนโลยี Web3 เป็นต้น

  • 4

    การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับนวัตกรรม

    บริษัทมีการส่งเสริมแนวคิดนวัตกรรมภายในองค์กรผ่านโครงการที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของพนักงานในการพัฒนาแนวคิดหรือโครงการใหม่ เพื่อให้สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม

  • 5

    การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี

    บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล โดยมีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และดำเนินงานภายใต้กรอบของกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง