การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของเรา

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ตระหนักและให้ความสำคัญกับระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานอย่างมีจรรยาบรรณ ภายใต้กรอบกฎหมายและ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลที่ดี บริษัท ได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งมีเป้าหมายในการยกระดับกระบวนการบริหารจัดการที่มีอยู่เดิมให้มีความเป็นระบบและได้มาตรฐานสากล พร้อมทั้งจัดให้มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้พนักงานทุกระดับชั้นมีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัท ยังมุ่งเน้นการปลูกฝังวัฒนธรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีในองค์กร เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความซื่อสัตย์สุจริตในทุกกระบวนการ ทั้งนี้ บริษัท มุ่งมั่นที่จะพัฒนานโยบายดังกล่าวให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในบริบทของธุรกิจและกฎหมาย รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีในการบริหารจัดการองค์กรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าและผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว

บริษัท ตระหนักดีว่าการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของการดำเนินงาน และกิจกรรมทั้งหมดของบริษัท เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และแสดงถึงความรับผิดชอบ โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างเหมาะสม และมีจริยธรรม ตลอดจนการต่อต้านการให้สินบนและการทุจริตคอร์รัปชันที่ถือเป็นกระบวนการสำคัญในการเสริมสร้างองค์กรให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการและจรรยาบรรณทางธุรกิจที่ดีตามเจตนารมณ์ของบริษัท แสดงถึงการดำเนินงานที่มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถลดผลกระทบเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้เสียได้สำเร็จ

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน

ด้วยวิสัยทัศน์นี้ บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พนักงาน ลูกค้า และชุมชนที่บริษัทให้บริการ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือและมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต


ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

พนักงาน
ลูกค้าและผู้บริโภค
ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
พันธมิตรและคู่ค้า
ชุมชนและสังคม
หน่วยงานภาครัฐและกำกับดูแล

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG 5
ความเท่าเทียมทางเพศ
SDG 8
งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
SDG 10
ลดความเหลื่อมล้ำ
SDG 12
การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
SDG 16
ความสงบสุข ยุติธรรมและสถาบันเข้มแข็ง

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

  • ในทุกปีการละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจต้องเป็นศูนย์ กรณีตั้งแต่คณะกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ กระทําการฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจ

ผลการดำเนินงาน

JMT ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 3 ดาว “ดี” ประจำปี 2567 จากการสำรวจด้านการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (THAI IOD)
โครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียน (AGM Checklist) JMT ได้ผลการประเมิน 96 คะแนน ระดับ 4 เหรียญ อยู่ในเกณฑ์ “ดีเยี่ยม”
JMT ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีรายชื่ออยู่ในหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จากการประเมินด้านความยั่งยืน ในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล หรือ ESG อยู่ในระดับ BBB

การสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies

Corporate Governance Report of Thai Listed Companies

รายงานการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies – CGR) เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงผลการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมิน ทบทวน และปรับปรุงเกณฑ์และแนวทางในการประเมินให้มีความชัดเจนและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 3 ดาว หรือ "ระดับดี" ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่มีมาตรฐานสูง โดยการสำรวจนี้จัดทำโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors: IOD) ด้วยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงาน ก.ล.ต.

เจ เอ็ม ที ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่ไปกับจรรยาบรรณองค์กร และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และหลักบรรษัทภิบาล เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายทางธุรกิจที่กำหนดไว้ โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการที่โปร่งใส ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ และมีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง มีจิตสำนึกและทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงาน รวมถึงมุ่งเน้นการดำเนินการที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดขององค์กรเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว

The Annual General Meeting (AGM) Checklist for Listed Companies Quality Assessment Program

โครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียน (AGM Checklist)

JMT ได้รับผลการประเมิน 96 คะแนน ระดับ 4 เหรียญ อยู่ในเกณฑ์ “ดีเยี่ยม” โครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียน (AGM Checklist)

สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทยได้จัดโครงการ “ประเมินคุณภาพ AGM ของบริษัทจดทะเบียน” ซึ่งผลการประเมินคุณภาพประจำปี 2567 บริษัทได้รับผลการประเมิน 96 คะแนน อยู่ในเกณฑ์ “ดีเยี่ยม” ระดับ 4 เหรียญ ซึ่งฝ่ายจัดการได้วางแผนปรับปรุงการดำเนินเพื่อให้ได้ผลคะแนนที่ดียิ่งขึ้นในปี 2568

แนวทางการบริหารจัดการ

เพื่อการเป็นบริษัทที่ดำเนินงานด้วยธรรมาภิบาลที่ดี บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับกรรมการบริษัทจดทะเบียน (Code of Best Practice) โดยมุ่งเน้นการสร้างความโปร่งใสในทุกระดับของการดำเนินงาน ตั้งแต่พนักงานระดับปฏิบัติงาน ผู้บริหาร จนถึงคณะกรรมการบริษัท ซึ่งแนวทางดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิผลของการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

บริษัท ได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์องค์กร โดยมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัท มีความโปร่งใส เป็นธรรม และสามารถตรวจสอบได้ บริษัท จึงปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Code) ตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยหลักการเหล่านี้ครอบคลุมถึงการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องความรับผิดชอบ ของกรรมการ ความโปร่งใสในกระบวนการตัดสินใจ การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเป็นธรรม

นอกจากนี้ บริษัท ยังส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี และให้การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านการกำกับดูแลกิจการ เพื่อให้บริษัท สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งก้าวสู่การเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้บริการทางการเงินได้รับการยอมรับในระดับประเทศและระดับสากลในอนาคต

ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยข้อพึงปฏิบัติที่สำคัญ 15 ข้อ ครอบคลุมการกำกับดูแลในทุกมิติ ทั้งด้านจริยธรรม ความโปร่งใส การรับผิดชอบต่อสังคม และความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจ ดังนี้

1.นโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี
2.สิทธิและความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้น
3.สิทธิของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ
4.การประชุมผู้ถือหุ้น
5.ภาวะผู้นำวิสัยทัศน์
6.ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
7.จริยธรรมทางธุรกิจ
8.การถ่วงดุลของคณะกรรมการ และความหลากหลายของคณะกรรมการ
9.การรวมหรือแยกตำแหน่ง
10.ค่าตอบแทนของคณะกรรมการและผู้บริหาร
11.การประชุมคณะกรรมการ
12.คณะกรรมการตรวจสอบ
13.ระบบการควบคุมและตรวจสอบภายใน
14.รายงานของคณะกรรมการ
15.ความสัมพันธ์กับผู้ลงทุน

โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ

ในบริบทของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อน ผันผวน และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ได้ออกแบบโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การตัดสินใจดำเนินการจะอิงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอ พร้อมทั้งมั่นใจว่า คณะกรรมการและผู้บริหารทุกระดับจะปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์สุจริต ตามกฎหมาย ข้อบังคับ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และนโยบายหรือแนวทางที่ได้กำหนดไว้ โดยมุ่งหวังที่จะให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

บริษัท มีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่กำหนดแนวทางและนโยบายต่าง ๆ ของบริษัทโดยคณะกรรมการดังกล่าวมีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา 68 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัด และตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ รวมทั้งไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 4/2 แห่ง พ.ร.ก. บริษัทบริหารสินทรัพย์ โดยคณะกรรมการบริษัทมีบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะผู้นำองค์กร เพื่อดูแลรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย โดยกำหนดนโยบาย เป้าหมาย ยุทธศาสตร์และทิศทางในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในปัจจุบันและในระยะยาว กำหนดกระบวนการตรวจสอบ และการกำกับดูแลให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัท และมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นและเป็นไปอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรสู่ความยั่งยืน

คณะกรรมการบริษัทจัดให้มีคณะกรรมการชุดย่อย 3 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน และคณะกรรมการบริหาร อีกทั้งเพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามนโยบาย เป้าหมาย แผนกลยุทธ์ และวิสัยทัศน์ จึงได้กำหนดเป้าหมายธุรกิจใช้เป็นกรอบในการดำเนินงาน

  • 1

    คณะกรรมการบริษัท

    คณะกรรมการบริษัทในฐานะผู้นำหรือผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำกับดูแลกิจการ ให้บริษัทดำเนินกิจการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของบริษัทรวมถึงรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและมีการปฏิบัติตาม กฎหมายและข้อกำหนดของหน่วยงานที่กำกับดูแล คณะกรรมการบริษัทจึงต้องทำหน้าที่ของตนด้วยดวามระมัดระวัง รอบคอบ ซื่อสัตย์สุจริดโปร่งใส โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กิจการและผู้ถือหุ้น

  • 2

    คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน บรรษัทภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

    ได้รับแต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริษัทในขอบเขตของการดูแลและการกำกับดูแลกิจการเพื่อความยั่งยืน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและพัฒนาธุรกิจให้มีความยั่งยืนโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ เสียตลอดห่วงโซคุณค่าของธุรกิจ และผลักดันให้กลุ่มบริษัทเจมาร์ท คำนึงถึงประเด็นความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจอย่างครอบคลุม ทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติด้านบรรษัทภิบาล ตลอดจนส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูลการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อสะท้อนคุณค่าและมูลค่าที่แท้จริงของกลุ่มบริษัทเจมาร์ท

  • 3

    คณะกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยง

    เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและมั่นใจว่า บริษัทได้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับของทางการ และนโยบาย ระเบียบปฏิบัติของบริษัท มีการรายงานทางการเงินถูกต้องและน่าเชื่อถือและมีการปฏิบัติงานที่ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงมีระบบการควบคุมที่เพียงพอ คณะกรรมการบริษัทจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งมีความเป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร เพื่อทำหน้าที่สอบทานความเพียงพอเหมาะสมของระบบการควบคุมภายในและระบบการบริหารความเสี่ยง รวมถึงทำหน้าที่ตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย เพื่อให้การดำเนินกิจการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัท