การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของเรา

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปฏิบัติตาม มาตรฐานแรงงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของพนักงานและเสริมสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ

การปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงานที่ดี ไม่เพียงช่วยให้บริษัทสามารถรักษาความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มได้อย่างยั่งยืน แต่ยังเป็นการส่งเสริมความยุติธรรมภายในองค์กร และเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานได้อย่างเต็มที่ บริษัทจึงมุ่งมั่นปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน กฎระเบียบ และมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด รวมถึงการดำเนินงานตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับด้านแรงงานอย่างจริงจัง ได้แก่ นโยบายค่าตอบแทนและผลประโยชน์ของพนักงาน นโยบายการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล และนโยบายสิทธิมนุษยชน

บริษัทให้ความสำคัญกับการจ้างงานและเลิกจ้างอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติในเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความพิการ พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างทั่วถึง มีการกำหนดชั่วโมงการทำงานอย่างเหมาะสม ห้ามใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับ และให้ความสำคัญกับการจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการดำรงชีพ เช่น ประกันสุขภาพ สิทธิการลาพักร้อน และสวัสดิการอื่น ๆ ที่เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน

นอกจากนี้ ยังมีการดูแลด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานที่ทำงาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงจากปัจจัยที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเสนอแนะหรือสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับสวัสดิการ ผ่านกลไกคณะกรรมการสวัสดิการภายในองค์กร ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรับฟังและประสานประเด็นสำคัญต่าง ๆ แทนพนักงาน เพื่อให้เกิดการดูแลที่รอบด้านและเป็นธรรมต่อพนักงานทุกระดับ

การเคารพสิทธิมนุษยชนในองค์กรยังเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทให้ความใส่ใจ โดยไม่สนับสนุนการละเมิดสิทธิใดๆ อาทิ การคุกคามหรือการเลือกปฏิบัติทางเพศ หรือการกดขี่พนักงาน ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน และช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กร

สุดท้าย บริษัทมีการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรฐานแรงงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกกระบวนการที่ดำเนินการอยู่มีความโปร่งใสและเป็นไปตามข้อกำหนดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในระยะยาว


ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

พนักงาน
ผู้บริหารและฝ่ายทรัพยากรบุคคล
หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล
ลูกค้าและผู้บริโภค

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG 3
สุขภาพและความเป็นอยู่ที่
SDG 4
การศึกษาที่มีคุณภาพ
SDG 5
ความเท่าเทียมทางเพศ
SDG 8
งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
SDG 10
ลดความเหลื่อมล้ำ
SDG 16
ความสงบ ยุติธรรมและสถาบันเข้มแข็ง

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

  • จำนวนข้อพิพาทด้านแรงงานเป็นศูนย์
  • บริษัทตั้งเป้าหมายการประเมินความพึงพอใจของพนักงานไม่น้อยกว่า ร้อยละ 70

ผลการดำเนินงาน

ในการดำเนินงานปี 2567 บริษัทไม่มีข้อพิพาทด้านแรงงานที่มีนัยสำคัญ
บริษัทได้รับผลการประเมินความพึงพอใจของพนักงานเฉลี่ย ร้อยละ 72.06

การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล

บริษัทได้กำหนดนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานบนพื้นฐานของคุณธรรมและความเท่าเทียม ดูแลพนักงานอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกฝังค่านิยม วินัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัท รวมถึงข้อกำหนดของกฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้พนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย ในการเป็นผู้นำด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยการบริการที่เป็นเลิศและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

บริษัทให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพนักงาน จัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี มีมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อีกทั้งยังมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กรในระยะยาว สนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพตามศักยภาพของพนักงาน บริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการให้เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง

บริษัทจึงกำหนดนโยบายการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติและแนวทางปฏิบัติให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน และกำหนดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติและแนวทางปฏิบัติให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ปฏิบัติโดยดูแลถึงผลตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ ไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

  • 1
    การสรรหาและการรับบุคลากรเข้าทำงานจะต้องพิจารณาจากความเหมาะสมทั้งด้านความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์และ เช็คประวัติพฤติกรรมตามระเบียบของบริษัท
  • 2
    กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งพิจารณาค่าตอบแทนตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ซึ่งเป็นอัตราค่าจ้างสามารถแข่งขันในธุรกิจประเภทเดียวกันได้
  • 3
    กำหนดให้มีการจัดอบรม ปฐมนิเทศพนักงานใหม่ให้มีความรู้และความเข้าใจถึงรายละเอียดและกฎระเบียบต่างๆของบริษัท รวมถึงแนะนำโครงสร้างองค์กร ผู้บริหาร กระบวนการธุรกิจต่างๆ ในบริษัทไปจนถึงบริษัทย่อย
  • 4
    ส่งเสริมพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรมีความรู้และความสามารถที่หลากหลาย (Multi – Skills) เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  • 5
    ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรได้ใช้ความรู้ความสามารถทักษะของตนเองในงานของบริษัทได้อย่างเต็มที่
  • 6
    จัดให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี มีความปลอดภัย ถูกสุขลักษณะอาชีวะอนามัย โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ และตามที่กฎหมายกำหนด
  • 7
    จัดให้มีกระบวนการบริหารค่าตอบแทนที่สร้างแรงจูงใจและผลตอบแทนตามคุณค่าของความสำเร็จของงาน
  • 8
    จัดสวัสดิการและกิจกรรมต่างๆให้กับพนักงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กรสร้างความสามัคคีและวัฒนธรรมที่ดีในองค์กร
  • 9
    ปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนด้วยความยุติธรรมและเท่าเทียม โปร่งใส เคารพ ให้เกียรติพนักงานทุกคน
  • 10
    เคารพและคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในการจ้างงาน โดยจะไม่บังคับใช้แรงงาน ไม่สนับสนุนการจ้างแรงงานเด็กหรือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด

สิทธิพนักงาน

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลและสนับสนุนสวัสดิการและสิทธิของพนักงาน เพราะเรามองว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในองค์กร ซึ่งการให้ความสำคัญกับสวัสดิการพนักงานนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความร่วมมือที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กรอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้จัดสวัสดิการหลากหลายประเภทที่ครอบคลุมทั้งในด้านการเงิน สุขภาพ ความปลอดภัย และความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัว เพื่อให้พนักงานรู้สึกมั่นคงและมีความสุขในทุกแง่มุมของชีวิตการทำงาน โดยมีการดูแลให้พนักงานได้รับการคุ้มครองในทุกด้านที่สำคัญอย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร และเสริมสร้างความพึงพอใจในงานที่ทำ ส่งผลให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานและทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ดังนี้

  • 1

    สวัสดิการด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล

    บริษัทจัดให้มีสวัสดิการด้านสุขภาพที่ครอบคลุม รวมถึงการประกันสุขภาพสำหรับพนักงาน เพื่อให้พนักงานมั่นใจว่าหากเกิดปัญหาด้านสุขภาพจะได้รับการดูแลและการรักษาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังมีการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีของพนักงาน

  • 2

    สวัสดิการด้านการเงิน

    บริษัทมีการจัดสวัสดิการที่ช่วยเสริมความมั่นคงทางการเงินให้กับพนักงาน เช่น การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น

  • 3

    สวัสดิการด้านเวลาและความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว

    บริษัทให้ความสำคัญกับการให้พนักงานมีเวลาสำหรับครอบครัวและกิจกรรมส่วนตัว โดยมีการจัดวันหยุดประจำปีและวันลาพักร้อน รวมถึงการสนับสนุนเวลาทำงานที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมสมดุลชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว

  • 4

    สวัสดิการด้านความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

    บริษัทจัดให้มีมาตรการความปลอดภัยในการทำงานที่เคร่งครัด รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย การฝึกอบรมการป้องกันอุบัติเหตุ และการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างสม่ำเสมอ

  • 5

    สวัสดิการด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร

    บริษัทมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน เช่น การจัดงานเลี้ยงประจำปี การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสามัคคีร่วมกันในที่ทำงาน และการส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีม ซึ่งช่วยให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและมีความสุขในการทำงาน

การบริหารจัดการสวัสดิการและสิทธิของพนักงาน บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) มุ่งหวังที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและเป็นธรรม เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความพึงพอใจในงานที่ทำ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในด้านการทำงานและชีวิตส่วนตัว

การพัฒนาศักภาพและส่งเสริมความก้าวหน้าแก่พนักงาน

จากข้อมูลพนักงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวนชั่วโมงการอบรมเฉลี่ย 32 ชั่วโมงต่อคน มีค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมรวม 1,167,812.09 บาท

การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลในระดับองค์กร โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีบทบาทสำคัญในการวางแผนและขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงานอย่างเป็นระบบ บริษัทตระหนักดีว่าการลงทุนในด้านการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานไม่ได้เป็นเพียงการสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจให้กับพนักงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรในระยะยาว

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้ริเริ่มและดำเนินโครงการพัฒนาทักษะที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมความก้าวหน้าในด้านทักษะส่วนบุคคล การพัฒนาศักยภาพในเส้นทางอาชีพ และการสร้างความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โครงการเหล่านี้เริ่มต้นจากการวิเคราะห์และระบุช่องว่างทางทักษะ (Skill Gaps) เพื่อทำความเข้าใจว่าบุคลากรของบริษัทต้องการเสริมสร้างหรือพัฒนาทักษะในด้านใดบ้าง จากนั้นจึงดำเนินการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะเดิมที่มีอยู่ (Upskilling) และเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ (Reskilling) เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถปรับตัวและพัฒนาตนเองให้เหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับ รวมถึงตอบสนองต่อกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของบริษัทได้อย่างเต็มที่

เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาทักษะของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจและทิศทางการดำเนินงานขององค์กร ภายใต้บริบทของปัจจัยแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและซับซ้อน การปรับตัวของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมถึงการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อปัจจัยเหล่านี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากร

โดยมุ่งเน้นการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ การปรับปรุงแนวทางการให้บริการหรือการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ตลอดจนการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในตลาด การพัฒนาบุคลากรในลักษณะนี้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความพร้อมสำหรับอนาคต ช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม และเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับองค์กร เพื่อให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

การส่งเสริมความสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมกับพนักงาน

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยมุ่งสร้างทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีความสุขในการทำงาน เพราะเชื่อมั่นว่าพนักงานคือหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน บริษัทได้วางแผนและดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างทักษะและความสามารถเฉพาะทาง รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์สำคัญในการดูแลพนักงานของบริษัทครอบคลุมทั้งการจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ การให้โอกาสในการเรียนรู้ต่อเนื่อง และการส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน เช่น กิจกรรมสันทนาการ งานเลี้ยงประจำปี โครงการเพื่อสังคม (CSR) และกิจกรรมเสริมสร้างความร่วมมือในทีมงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและสนับสนุนความสุขของพนักงาน

นอกจากนี้ยังมุ่งเสริมสร้างความรู้สึกผูกพันและความภูมิใจในองค์กร โดยเชื่อว่าการดูแลพนักงานที่มีศักยภาพและการเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กรจะช่วยสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะร่วมมือกันผลักดันองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นคง

  • 1

    การรักษาพนักงานของเจ เอ็ม ที

    เจ เอ็ม ที ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการรักษาพนักงาน โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่กระตุ้นแรงจูงใจและความท้าทาย เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับและมีคุณค่าในผลงานที่ได้ทำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กร เจ เอ็ม ที จึงมุ่งเน้นการให้รางวัลและการยอมรับความสำเร็จของพนักงาน ผ่านกระบวนการประเมินผลอย่างโปร่งใส และสวัสดิการที่สอดคล้องกับความต้องการของพนักงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าความทุ่มเทของพวกเขาได้รับการชื่นชมและมีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร นอกจากนี้ เจ เอ็ม ที ยังตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพและมีความสุขในการทำงานอีกด้วย

  • 2

    การพัฒนาและสร้างความผูกผัน

    เจ เอ็ม ที เชื่อว่าการรักษาพนักงานในระยะยาวนั้น ต้องมาพร้อมกับการสร้างความผูกพันและความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างพนักงานและองค์กร ด้วยการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร โดยการสื่อสาร พันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างชัดเจน เพื่อให้พนักงานเข้าใจและรู้สึกถึงความสำคัญของตนเองในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนพัฒนาทางอาชีพที่สนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานเห็นเส้นทางการเติบโตของตนในองค์กรได้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจว่าพวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการร่วมสร้างความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทในระยะยาว

การจ้างงานที่เป็นธรรมและการให้โอกาสอย่างเท่าเทียม

เจ เอ็ม ที เน็ทเวอรค์ เซอรว์สิเซส จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นในการเคารพสิทธิมนุษยชนและดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม โดยยึดหลักความเป็นธรรม ความเสมอภาค และไม่เลือกปฏิบัติในทุกกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัทให้ความสำคัญกับการจ้างงานที่เปิดกว้าง เท่าเทียม และเคารพในศักดิ์ศรีของพนักงานทุกคนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร

ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนในทุกกระบวนการจ้างงาน

เจ เอ็ม ที ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ด้วยการส่งเสริมเสรีภาพในการทำงาน ความสมัครใจ และไม่สนับสนุนการใช้แรงงานเด็ก หรือแรงงานที่มีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทไม่ยินยอมให้มีการบังคับใช้แรงงานในทุกรูปแบบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมทั้งรับรองว่าทุกการจ้างงานดำเนินไปตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด เป็นธรรม และคำนึงถึงสิทธิและศักดิ์ศรีของพนักงานทุกคน

ค่าจ้างที่เป็นธรรม

บริษัทให้ความสำคัญกับการกำหนดค่าตอบแทนอย่างยุติธรรมและแข่งขันได้ โดยยึดหลักความโปร่งใส ความเสมอภาค และความเหมาะสมตามบทบาท หน้าที่ และผลงานของพนักงาน บริษัทไม่มีการเลือกปฏิบัติในการกำหนดค่าตอบแทนไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ สถานะ หรือความแตกต่างด้านอื่นใด ทั้งนี้บริษัทพิจารณาค่าจ้างไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการทบทวนโครงสร้างค่าตอบแทนเป็นระยะให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและแนวทางการเติบโตของธุรกิจ เพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่กับการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ บริษัทได้ออกแบบระบบค่าตอบแทนที่เน้นประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ของงาน เพื่อกระตุ้นให้พนักงานพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเป้าหมายขององค์กร จากการวิเคราะห์ข้อมูลในปี 2567 พบว่า อัตราค่าตอบแทนเฉลี่ยของพนักงานหญิงเมื่อเทียบกับพนักงานชายอยู่ที่ 0.89:1 ซึ่งหมายความว่าพนักงานหญิงมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 89% ของพนักงานชาย เจ เอ็ม ที ตระหนักถึงความแตกต่างนี้ บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาแนวทางลดช่องว่างดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ส่งเสริมการจ้างงานผู้พิการ

เจ เอ็ม ที ตระหนักถึงศักยภาพของผู้พิการในการเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานที่มีคุณค่า จึงสนับสนุนการจ้างงานผู้พิการในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถเฉพาะบุคคล โดยเน้นสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน นอกจากนี้บริษัทยังส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง ยอมรับความหลากหลาย และอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผู้พิการสามารถทำงานอย่างภาคภูมิใจ สร้างรายได้ที่เพียงพอ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ในปี 2567 ที่ผ่านมา JMT มีจำนวนพนักงานรวมทั้งสิ้น 2,225 คน มีการจ้างงานผู้พิการรวมทั้งสิ้นจำนวน 23 คน

ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียม และการพัฒนาองค์กรอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่กำหนดให้องค์กรต้องจ้างผู้พิการในอัตราไม่น้อยกว่า 1 คนต่อพนักงานทุก 100 คน การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนถึงการปฏิบัติตามข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการขับเคลื่อนความเสมอภาคในสังคม และการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

แนวทางการบริหารจัดการ

แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ในภาวะที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีว่าศักยภาพและคุณภาพของบุคลากรในองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นให้บุคลากรเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กร

แนวทางสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ได้แก่:

  • 1

    การปฏิบัติด้านแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

    บริษัทให้ความสำคัญกับการปฏิบัติด้านแรงงานตามมาตรฐานกฎหมายแรงงาน และไม่สนับสนุนการใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานผิดกฎหมาย โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทไม่มีข้อร้องเรียนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานเด็ก นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการจ้างงานที่เป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติทางเพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา ภูมิลำเนา หรือความพิการ

  • 2

    การสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพบุคลากร

    บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานและรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ โดยมีการจัดการฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

  • 3

    การดูแลความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

    บริษัทใส่ใจในความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน โดยดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

  • 4

    การส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร

    บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร (Employee Engagement) โดยส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นความเคารพซึ่งกันและกัน การสนับสนุนการทำงานเป็นทีม และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร

  • 5

    การปฏิบัติตามหลักจริยธรรมและสิทธิมนุษยชน

    บริษัทปฏิบัติตามหลักจริยธรรมอย่างเคร่งครัด และมุ่งมั่นหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ เช่น การเลือกปฏิบัติ การคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย

  • 6

    การรักษาและพัฒนาบุคลากรในระยะยาว

    บริษัทมีแผนการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มุ่งเน้นการรักษาพนักงานที่มีทักษะและความสามารถให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว พร้อมทั้งพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากร

ด้วยแนวทางดังกล่าว บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าสร้างความยั่งยืนในการบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อให้บุคลากรของบริษัทเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จในอนาคต และเป็นแบบอย่างที่ดีในวงการธุรกิจต่อไป