การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของเรา

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้และให้บริการด้านการเงิน มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม โดยยึดมั่นในนโยบายที่ให้ความสำคัญต่อสิทธิและผลประโยชน์ของลูกค้า และผู้บริโภค

บริษัทให้ความสำคัญกับความโปร่งใส และความเป็นธรรม ในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ตั้งแต่การวางแผนจัดการหนี้ การให้คำปรึกษา และการสื่อสารกับลูกค้า โดยยึดหลักการที่เน้นการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความลับของลูกค้า และการปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังเน้นการสร้างความไว้วางใจผ่านการสื่อสารที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ รวมถึงการให้บริการในรูปแบบของการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและความมั่นใจในการใช้บริการ

บริษัทเชื่อมั่นว่า ความซื่อสัตย์ และความเป็นมืออาชีพ ในการดำเนินงานเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ ทั้งนี้ เจ เอ็ม ที ให้ความสำคัญกับการออกแบบบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินที่โปร่งใสและเป็นธรรม

ด้วยวิสัยทัศน์นี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า พร้อมกับการมีบทบาทในการพัฒนาระบบการจัดการหนี้และการเงินที่เป็นธรรมและสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายขององค์กรและผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า


ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ลูกค้าและผู้บริโภค
พนักงาน
พันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้า
ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
ชุมชนและสังคม
รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG 3
สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
SDG 8
งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
SDG 12
การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
SDG 16
ความสงบสุข ยุติธรรมและสถาบันเข้มแข็ง

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

  • ไม่มีกรณีการรั่วไหล การขโมยหรือการสูญหาย ของข้อมูลลูกค้าที่ได้รับการเก็บข้อมูล
  • ไม่มีกรณีการร้องทุกข์จากบุคคลภายนอก และ/หรือจากหน่วยงานกำกับดูแล
  • ไม่มีจำนวนเหตุการณ์หรือข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิผู้บริโภค

ผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ปี 2567
ประเภทการร้องทุกข์ จำนวนการร้องทุกข์ (ครั้ง)
การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล 0
การทำข้อมูลสูญหายและการรั่วไหลของข้อมูล 0
เหตุการณ์หรือข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิผู้บริโภค 0

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในทุกกรณี อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่เป็นผู้ให้บริการ ซึ่งได้รับการคัดเลือกอย่างรอบคอบและมีหน้าที่ในการสนับสนุนหรือดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท อาทิ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดส่งเอกสาร หรือผู้ให้บริการด้านกฎหมาย โดยบริษัทจะดำเนินการเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็น และภายใต้ขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า พร้อมทั้งรับประกันว่าบุคคลภายนอกเหล่านั้นจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานการปกป้องข้อมูลที่กำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ได้รับการใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือถูกเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตในทุกกรณี

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม

บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ให้สอดคล้องกับความอ่อนไหวของข้อมูลที่ท่านอาจส่งต่อเปิดเผย โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ ตามความเหมาะสมและโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิของท่าน ในฐานะเจ้าของข้อมูลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อขอใช้สิทธิของท่าน ซึ่งได้แก่ สิทธิเพิกถอนความยินยอม สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือสิทธิในการร้องเรียน

โดยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่:

อีเมล:
DPO_JMT@jmtnetwork.co.th
เบอร์โทร:
02-838-7650 or 02-838-7710

กระบวนการตอบสนองกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล

กระบวนการตอบสนองกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล

Data Breach Response

ขั้นตอนการบริหารจัดการณ์เหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ขั้นตอนการบริหารจัดการณ์เหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

แนวทางการบริหารจัดการ

เจ เอ็ม ที ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยตระหนักถึงความสำคัญของการเก็บรักษาและจัดการข้อมูลอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าข้อมูลของตนจะได้รับการคุ้มครองในระดับสูงสุดตามมาตรฐานสากล

นโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจมาร์ทมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้าในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การเก็บรวบรวม การจัดเก็บ การประมวลผล และการใช้ข้อมูล เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตาม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และมาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูล เพื่อให้ลูกค้าได้รับความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลที่ส่งมอบให้บริษัท และเสริมสร้างความไว้วางใจในธุรกิจต่าง ๆ ที่บริษัทดำเนินการด้วยการมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดนี้ บริษัท จึงสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง พร้อมกับการรักษาความเชื่อมั่นจากลูกค้าและผู้บริโภคในระยะยาว ซึ่งถือเป็นการยกระดับการบริการและการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

แนวปฏิบัติด้านการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

  • 1
    การเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างโปร่งใส: บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลการทำธุรกรรม โดยได้รับความยินยอมอย่างชัดเจนจากลูกค้า
  • 2
    การจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย: นำระบบเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) และการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีระบบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • 3
    การประมวลผลและการใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสม: บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและเกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้า เช่น การปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการจัดทำข้อเสนอพิเศษ โดยมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลอย่างเคร่งครัด
  • 4
    การกำหนดสิทธิ์และความรับผิดชอบในองค์กร: มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการจัดอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA และมาตรฐานสากล
  • 5
    การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านข้อมูล: มีการดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อระบุและจัดการช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล