การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของเรา

ภายใต้สถานการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพและความสมดุลของระบบนิเวศ

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบเหล่านี้ และมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่กระบวนการขนส่ง การใช้ทรัพยากรน้ำและพลังงาน การบริหารจัดการคลังสินค้า ไปจนถึงการจัดจำหน่าย โดยเล็งเห็นว่ากิจกรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพได้ หากไม่มีการจัดการและควบคุมที่เหมาะสม

ด้วยเหตุนี้ เจ เอ็ม ที จึงได้กำหนดนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท นโยบายนี้ได้วางแนวทางชัดเจนในการตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศจากกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท


ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
พนักงาน
พันธมิตรทางธุรกิจ
ลูกค้าและผู้บริโภค
ชุมชนและสังคม
ภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

SDG 12
การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production)
SDG 13
การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action)
SDG 15
การอนุรักษ์ระบบนิเวศทางบก (Life on Land)
SDG 17
ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

นโยบายความหลากหลายทางชีวภาพของเจมาร์ทมีเป้าหมายสูงสุดในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการสร้างสมดุลในระบบนิเวศ และมีความรับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนี้

  • ป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพสุทธิ (No Net Loss - NNL) มุ่งมั่นในการปกป้องพื้นที่ป่าไม้ให้ไม่เกิดการสูญเสียสุทธิ (No Net Deforestation)
  • ลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity loss / loss of biodiversity) ด้วยการยึดหลักการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับชั้น (Mitigation Hierarchy) ดังนี้

    การหลีกเลี่ยง (Avoidance) เพื่อลดการรุกล้ำและลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญ

    การลดผลกระทบ (Reduce) โดยใช้กระบวนการที่ช่วยลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

    การฟื้นฟู (Restore) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกลับสู่สภาพเดิม

    การชดเชย (Offset) เพื่อทดแทนทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อื่นเมื่อจำเป็น

ในการดำเนินงานปัจจุบัน เจ เอ็ม ที แสดงถึงความมุ่งมั่นในการจัดการและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ที่บริษัทดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดจากการดำเนินงานของบริษัท

อีกทั้งยังได้กำหนดนโยบายชัดเจนในการหลีกเลี่ยงการดำเนินโครงการหรือการพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ที่มีความสำคัญด้านการอนุรักษ์ หรือมีความเปราะบางต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น พื้นที่แหล่งมรดกโลกที่ได้รับการประกาศจาก UNESCO (UNESCO World Heritage Sites) พื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ประเภท I-IV ซึ่งรวมถึงอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และพื้นที่อนุรักษ์ตามกฎหมายของท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดการรุกล้ำและทำลายระบบนิเวศในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางชีวภาพ เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมและการดำเนินงานของ เจ เอ็ม ที จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

นอกจากนี้ เจ เอ็ม ที ยังให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่อาจได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของบริษัท โดยบริษัทได้จัดตั้งกลไกการรับฟังข้อร้องเรียนและการสื่อสารกับชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ ตามหลักสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้แน่ใจว่ามุมมองและข้อกังวลของชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงจะได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน ทั้งนี้ เจ เอ็ม ที ยังมุ่งเน้นการป้องกันและบรรเทาผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต


แนวทางการบริหารจัดการ

  • 1
    บริษัทตระหนักถึงการคัดสรรและพัฒนาการสร้างสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงมีการวางแผนพัฒนาและ ปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศ
  • 2
    บริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพและปราศจากผลกระทบต่อ พื้นที่ป่าไม้สุทธิ ภายใต้ขอบเขตที่สามารถจัดการได้
  • 3
    มีการตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยงทางระบบนิเวศที่อาจเกิดขึ้นจากการด าเนินการของบริษัทผ่านการก าหนด แผนมาตรการแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นตามลำดับขั้นของการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Mitigation Hierarchy) ได้แก่

    การหลีกเลี่ยง (Avoidance) เพื่อลดการรุกล้ำและลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญ

    การลดผลกระทบ (Reduce) โดยใช้กระบวนการที่ช่วยลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

    การฟื้นฟู (Restore) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกลับสู่สภาพเดิม

    การชดเชย (Offset) เพื่อทดแทนทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อื่นเมื่อจำเป็น

  • 4
    มีจุดยืนในการหลีกเลี่ยงการดำเนินธุรกิจหรือการพัฒนาโครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่อนุรักษ์หรือพื้นที่ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น พื้นที่แหล่งมรดกโลกตามประกาศของ UNESCO World Heritage พื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองตามข้อกำหนดขององค์กรระว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติIUCN ประเภท I-IV และพื้นที่คุ้มครองตามกฎหมายท้องถิ่นกำหนด